ตาสองชั้นหลบใน ปัญหาที่มักพบได้บ่อยในคนไทยถึงแม้ว่าจะมีตาสองชั้นแต่หลายคนมักจะไม่เข้าใจ คิดว่ามีตาชั้นเดียวอยู่เสมอ เพราะชั้นอีกชั้นดันเข้าไปหลบแอบมุมอยู่ด้านในหนังตา ทำให้ดวงตาสวยขาดเสน่ห์ ทำให้การแต่งหน้าโดยเฉพาะดวงตายาก แถมยังส่งผลต่อโหงวเฮงบนใบหน้าอีกด้วย และในวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีแก้ดวงตาชนิดนี้ว่ามีวิธีแก้ไขอย่างไรได้บ้างต้องพึ่งมีดหมออย่างไรเรามาดูกัน
ตาสองชั้นหลบใน คืออะไร?
หลายคนอาจมีคำถามว่า “ตาสองชั้นหลบใน กับ ตาชั้นเดียวแตกต่างกันอย่างไร” ความแตกต่างของผู้ที่มีดวงตาสองชั้นแต่หลบในและคนมีตาชั้นเดียวต่างกันก็คือ ผู้ที่มีตาชั้นเดียวนั้นบนเปลือกตาจะไม่มีชั้นหรือขีดหนังตาบนเปลือกตาเลย แต่คนที่มีตาสองชั้นแต่หลบในนั้น มองเผิน ๆ อาจดูเหมือนเป็นมีตาชั้นเดียว แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีชั้นหรือหนังตาที่เป็นขีดเล็ก ๆ หรือ ชั้นเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่บริเวณเปลือกตา ซึ่งสาเหตุของตาสองชั้นแต่หลบในนั้นมักเกิดจากไขมันที่เปลือกตาเยอะ ปัญหาสำหรับผู้ที่มีตาสองชั้นแต่หลบในนั้นมักจะมีปัญหาในด้านบุคลิกภาพ ดวงตาเล็กทำให้ดูไม่สดใส และแต่งหน้าบริเวณตาได้ยาก
แก้ไขอย่างไรได้บ้างเมื่อมีตาสองชั้นหลบใน
ติดสติกเกอร์ตาสองชั้น
การติดสติกเกอร์ตาสองชั้นเป็นวิธีหนึ่งที่สาว ๆ หลายคนเลือกใช้กัน โดยใช้แผ่นสติกกอร์ใสหรือกาวติดตาสองชั้นมาติดบนเปลือกตาของเราให้เกิดตาสองชั้นแบบปกติ มีข้อเสียอยู่บ้างคือเป็นวิธีการที่ไม่ยั่งยืน ถาวร เพราะเราต้องมาติดใหม่ในทุก ๆ วัน อาจจะทำให้เกิดความรำคาญใจหรือเสียเวลา
กรีดหนังตา
สำหรับคนที่มีปัญหาเนื้อบริเวณหนังตามาก หรือ เป็นคนที่มีไขมันใต้เปลือกตาเยอะ เหมาะที่จะทำ ตาสองชั้น ด้วยวิธีการกรีดหนังตา ด้วยการ ขั้นตอนแรก ต้องกำหนดตำแหน่งชั้นตาที่สวย ที่เข้ากับใบหน้าและรูปดวงตาเดิมของแต่ละคนด้วย เมื่อกำหนดตำแหน่งเสร็จแล้ว ก็ใช้มีดสำหรับการผ่าตัดกรีดเปิดหนังตา ตั้งแต่หัวตา ไปจนถึง หางตา และตัดไขมันและหนังบางส่วนออกด้วย เสร็จแล้วก็จะทำการเย็บแผลที่กรีดให้ติดกัน ตาก็จะยกสูงขึ้นกว่าเดิม ทำให้ตาดูโตขึ้น ดูสดใสขึ้น
ดูดไขมัน
วิธีการดูดไขมัน เป็นการทำศัลยกรรมตาสองชั้น ที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพราะเจ็บตัวน้อยกว่าวิธีศัลยกรรมตาสองชั้นวิธีอื่นๆ วิธีการทำก็คือ ดูดไขมันส่วนเกินออก ด้วยการเจาะรูเล็กที่เปลือกตาบน ด้วยเทคนิค ประมาณ 4-5 มิลลิเมตร แล้วเย็บหนังตาบนกับเนื้อตา จนเกิดเป็นตาสองชั้น ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้ตาออกมาสวย ไม่เกิดรอยแผลเป็น และยังไม่มีอาการบวมช้ำตรงหนังตา เหมาะกับคนที่ดวงตามีไขมันมาก และ คนที่ต้องการมีตาทีสวยเป็นธรรมชาติ
เลเซอร์
สำหรับการทำเลเซอร์นั้นจะมีวิธีคล้าย ๆ กับการผ่าตัดด้วยมีด แต่ข้อดีของเลเซอร์ก็คือ ช่วยลดการกระทบกระเทือนลง อาการบวมหลังการผ่าตัดก็น้อยกว่าการใช้มีดผ่า และข้อดีอีกอย่างของการทำเลเซอร์ คือ เปลือกตาจะดูเนียน ใส เต่งตึง เนื่องจากการทำเลเซอร์ไปกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจน
ยกคิ้ว
วิธีนี้จะเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้กับบริเวณรอบดวงตา จึงทำให้ดวงตาดูโตขึ้นด้วย ซึ่งการผ่าตัดยกคิ้วปัจจัยมีเทคนิคการผ่าตัดที่ไม่ต้องเจ็บตัวมาก โดยจะมีการเปิดแผลบนหน้าผากบริเวณไรผม ซึ่งเป็นซ้อนรอยแผลจากการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะต้องแก้ปัญหาเรื่องของไขมันเยอะร่วมด้วย วิธีการคือ กำจัดไขมันด้วยการดูดไขมัน บางคนอาจมีไขมันบริเวณเปลือกตามากจนทำให้ตาปิดกลายเป็นตาชั้นเดียว ก็ต้องเจาะแล้วดูดออก โดยรูปที่เจาะเล็กเพียงแค่ 2 มิลลิเมตรเท่านั้น มักทำในคนอายุน้อย
เทคนิคที่แพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้
- สำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีปริมาณชั้นไขมันบริเวณเปลือกตามาก แพทย์จะทำการเอาไขมันตรงหนังตาบนที่เยอะซึ่งเป็นส่วนเกินออกก่อน หลังจากนั้นจะพิจารณาลักษณะดวงตาของคนไข้เพื่อที่จะทำเทคนิคตาสองชั้นแบบ แผลเล็ก หรือแผลยาว
- สำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีหนังตาที่หย่อนคล้อยมาก คุณหมอใช้เทคนิคทําตาสองชั้นแบบกรีดแผลยาว เพื่อที่จะตัดผิวหนังที่เป็นส่วนเกินออก ทั้งยังเป็นการป้องกันชั้นตาที่จะลงมาปิดในอนาคตได้ด้วย
- สำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีหนังตาไม่หย่อนคล้อยจนเกินไป คุณหมอจะใช้เทคนิคทําตาสองชั้นแผลเล็ก ซึ่งเป็นการกรีดแผลขนาด 3 – 5 mm ทําให้บวมน้อย ยุบเข้าที่เร็ว และไม่ต้องพักฟื้น
เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องทำตาสองชั้นหลบใน
- ผู้เข้ารับบริการต้องแจ้งประวัติการแพ้ยา ยาและอาหารเสริมที่รับประทาน โรคประจำตัว และประวัติการผ่าตัด ให้แพทย์ทราบ
- ก่อนเข้ารับบริการ 2 สัปดาห์ควรงดวิตามิน อาหารเสริม อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เลือดออกเยอะระหว่างผ่าตัด
- ก่อนเข้ารับบริการ 2 สัปดาห์ควรงดสูบบุหรี่ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและระยะการบวมที่นานกว่าปกติ
- งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและระยะการบวมที่นานกว่าปกติ
- หากใส่คอนแทคเลนส์ควรถอดก่อนทำการผ่าตัด
หลังทำตาสองชั้นหลบในควรปฏิบัติตัวอย่างไร
- หลังผ่าตัด 3 วันแรก ควรนอนยกศีรษะสูง ประคบด้วยความเย็น เริ่มล้างหน้าได้เมื่อครบ 3 วันไปแล้ว
- วันที่ 3-5 จะยังมีอาการบวมอยู่ ทำให้รู้สึกว่าตาไม่เท่ากัน ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อลดอาการบวม
- รอยฟกช้ำอาจขึ้นได้หลังทำตาประมาณวันที่ 3-5 ไปแล้วควรใช้น้ำอุ่นประคบเพื่อให้รอยช้ำหายเร็วขึ้น
- สามารถล้างหน้าโดยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดที่แผลแล้วซับให้แห้ง
- ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ 2 วัน หลังครบกำหนดสามารถโดนน้ำได้แล้วทำแผลหลังอาบน้ำล้างหน้า
- งดเว้นการใช้สายตาหรือขยี้ตา
- สามารถรับประทานยาแก้อักเสบและลดบวมตามที่แพทย์จัดให้ และหากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 1เดือน และงดสูบบุหรี่ ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้ามากทำให้บวมมากขึ้น