ปัญหาผิวหน้าของสาว ๆ เป็นปัญหาที่กวนใจสาว ๆ อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมไขมันบริเวณแก้ม คาง ทำให้หน้าของสาว ๆ กลมเหมือนลูกซาลาเปา แต่สาว ๆ ไม่ต้องตกใจเพราะในปัจจุบันนี้นวัตกรรมใหม่มาช่วยให้ใบหน้าของสาว ๆ สวยได้ดังใจนั่นก็คือ Meso Fat ที่เป็นนวัตกรรมที่จะมาช่วยในเรื่องของการสลายไขมันแก้มอย่างเร่งด่วนให้กับสาว ๆ ได้ และไม่ใช่แค่หน้าเท่านั้น แต่ Meso Fat ยังสามารถนำไปใช้กับส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้อีกด้วย เช่นต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง และวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Meso Fat พร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับ Meso Fat กันเลยค่ะ
Meso Fat คืออะไร
Meso Fat (เมโสแฟต) คือ นวัตกรรมในการนำวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมัน เพื่อลดสัดส่วนให้ได้รูปตามความต้องการ เป็นการลดไขมันเฉพาะที่ แบบไม่ต้องผ่าตัด เมโสแฟต เป็นการสลายไขมันที่ปลอดภัยมาก เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สลายออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงหมดปัญหาเรื่องของการแพ้ และการใช้เมโสแฟตแพทย์จะใช้เข็มฉีดยา ฉีดยาส่ง ซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน และทำให้ไขมันไม่สามารถสะสมกันได้อีก และยังช่วยกระตุ้นให้ไขมันที่สะสมถูกปล่อยออกมา เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และระบบต่อมน้ำเหลือง โดยทำให้บริเวณเนื้อเยื่อแข็งแรงและกระชับขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าไขมันจะไหลไปบริเวณใกล้เคียง หรือทำให้ผิวหนังแข็งเป็นก้อน เนื่องจากไขมันจะแตกตัวกลายเป็นของเหลว แล้วถูกขับออกมาทางปัสสาวะและทางอุจจาระ และในปัจจุบันมีการพัฒนาตัวยาที่ใช้ฉีดเพื่อสลายไขมัน สำหรับการทำเมโสแฟตให้สะดวกขึ้น ได้ผลเร็วขึ้น และสร้างเรื่องฟกช้ำหลังฉีดน้อยลง และหากใครที่กำลังมองหาวิธีการสลายไขมันแก้มด้วยการฉีดเมโสแฟต เราขอแนะนำ รัตตินันท์ คลินิก คลินิกความงามที่ดีที่สุด หากคุณได้เข้ามาใช้บริการรับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
บริเวณไหนบ้างที่คนนิยมใช้วิธีเมโสแฟต
การทำเมโสแฟตสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายแต่จะมีส่วนไหนที่คนนิยมทำกันเราไปดูกันเลย
- บริเวณแก้ม
- บริเวณคาง
- บริเวณต้นขา ต้นแขน
- บริเวณหน้าท้อง
- บริเวณจมูก
- บริเวณหนังตาบน
- บริเวณน่อง
ใครที่ไม่ควรทำ Meso Fat
การสลายไขมันแก้ม หรือการฉีดเมโสแฟตในส่วนอื่น ๆ อาจจะมีคนบางกลุ่มที่ไม่ควรทำและคนเหล่านั้นคือ
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี
- หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหลอดเลือดในสมอง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ไม่ควรทำเมโสแฟต หากต้องการทำต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง
ก่อนฉีดเมโสแฟตต้องเตรียมตัวอย่างไร
- ก่อนที่คนไขจะทำการฉีดเมโสแฟตให้คนไข้เข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์ตรวจและประเมินใบหน้าหรือจุดที่คนไข้ต้องการฉีด และหากคนไข้มีประวัติแพ้ยาหรือมีโรคประจำตัวต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- ก่อนจะทำการฉีดเมโสแฟตจะต้องงดยาแอดไพริน อาหารเสริมทุกชนิดเป็นเวลา 2 วันก่อนการฉีด
ศึกษาข้อมูลการทำเมโสแฟตอย่างละเอียด ทั้งกระบวนการทำและหลังทำ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขั้นตอนการฉีดยาสลายไขมันเมโสแฟต
แพทย์จะทำการผสมยา และยาที่ใช้ฉีดจะต้องมีปริมาณ 0.2-0.5 ซีซี ฉีดลึกประมาณ 5-10 มม. ในปริมาณที่ต้องการลดไขมัน โดยแต่ละจุดจะต้องห่างกันอย่างน้อย 2 ซม.และมีการฉีดซ้ำทุก 5- 7 วัน เมื่อฉีดสลายไขมันที่บริเวณผิวหนังแล้ว ไขมันจะหดตัวทันทีและจะลดจำนวนเซลล์ไขมันลงประมาณ 10.20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไขมันจะสลายตัวจนหมดเมื่อครบคอร์ส และหน้าก็จะดูเรียวได้รูปทันที แต่ก็มีบางคนอาจจะหน้าใหญ่กว่าปกติ เพราะมีการแตกของไขมันที่ช้า แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เมื่อน้ำยาทำการสลายไขมันให้เริ่มแตกตัวได้ แก้มของคนไข้ก็จะค่อย ๆ ยุบตัวเรื่อย ๆ จนแก้มเข้าที่และได้รูปตามความต้องการ
การฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล
การฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลใน 1-3 สัปดาห์โดยไขมันจะสลายตัวเองตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปริมาณไขมันที่สะสมของแต่ละตน ถ้าต้องการให้เห็นผลเร็วขึ้นแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะไขมันที่สลายจะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ และการดื่มน้ำมาก ๆ เป็นผลดีที่ทำให้คนไข้ขับไขมันออกมาได้มากขึ้นนั่นเอง
การฉีดเมโสแฟตอยู่ได้นานไหม
การฉีดเมโสแฟต ไม่ว่าจะเป็นเมโสแฟตสลายไขมันเหนียง เมโสแฟตสลายไขมันแก้ม หรือเมโสแฟตแก้มห้อย ปกติแล้วจะอยู่ได้นาน 2-3 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และเป็นอาหารที่ไม่เพิ่มการสะสมของไขมัน หรือหากต้องหารรักษาผลลัพธ์การฉีดเมโสแฟตให้อยู่นาน ๆ จะต้องกลับมาฉีดซ้ำเรื่อย ๆ ผลลัพธ์ของการฉีดเมโสแฟตก็จะอยู่ได้นานอย่างที่คนไข้ต้องการ
หลังฉีดเมโสแฟตต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่างน้อยต้องดื่มวันละ 2 ลิตรหรือมากกว่านั้นก็เป็นการดีสำหรับตัวคนไข้เอง เพราะไขมันเหลวที่โดนฉีดแล้วสลายเข้าไปนั้นจะขับออกมาทางปัสสาวะ หากเราดื่มน้ำมาก ๆ ไขมันที่เราสลายก็จะออกมาอย่างรวดเร็ว
- ออกกำลังกายเบา ๆ เป็นประจำทุกวันอย่างน้อยก็วันละ 30 นาทีและควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2-3 วันต่อหนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วนเร็วขึ้นนั่นเอง
- เปลี่ยนทัศนคติในการกิน เช่นกินอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้อีก เพราะการฉีกสลายไขมันแก้ม หากไม่ปรับทัศนคติในการกิน หารฉีดสลายไขมันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไขมันก็จะกลับมาสะสมได้อีก
- ช่วงที่ไม่ได้ฉีดเมโสแฟต ให้ทำ RF เพื่อช่วยรีดไขมันออกจากร่างกายเร็วขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้รูปมากขึ้น
- อาจจะมีอาการบวมเกิดขึ้น หรืออาจจะเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย หลังทำประมาณ 1-3 วัน ดังนั้นจึงไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือทำการนวด หรือทรีตเมนต์ใด ๆ ทั้งสิ้นประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อลดอาการฟกช้ำลงได้
การสลายไขมันแก้มด้วย เมโสแฟต เป็นการสลายไขมันที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก และหลังทำคนไข้จะต้องดูแลตัวเองให้ดี เมื่อคนไข้ดูแลตัวเองให้ดีแล้วผลลัพธ์ของการทำเมโสแฟตก็จะเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน